แผงระบายความร้อน สำหรับหอหล่อเย็น — หลักการ เลือกให้ถูก ดูแลง่าย

ในระบบหอหล่อเย็น แผงระบายความร้อน หรือที่มักเรียกกันว่า Cooling Tower Fill คือหัวใจของการถ่ายเทความร้อนระหว่างน้ำอุ่นกับอากาศ หากเลือกชนิดหรือวัสดุไม่เหมาะสม ประสิทธิภาพจะตกลงอย่างรวดเร็ว ทำให้พลังงานที่พัดลมต้องใช้เพิ่มขึ้น ค่าน้ำและสารเคมีบำบัดสูงขึ้น และมีโอกาสเกิดคราบตะกรัน/ตะไคร่จนตัน ชิ้นส่วนที่ดูเหมือนง่ายชิ้นนี้จึงมีผลต่อทั้งสมรรถนะและต้นทุนรวมของระบบโดยตรง

สรุปสั้น ๆ: การเลือกและดูแล แผงระบายความร้อน สำหรับหอหล่อเย็น อย่างถูกวิธี = ลดอุณหภูมิได้ตามต้องการ ใช้พลังงานน้อยลง และยืดอายุอุปกรณ์ทั้งหมดในระบบ

หลักการทำงานและชนิดของแผงระบายความร้อน

แผงระบายความร้อน สำหรับหอหล่อเย็น มีหน้าที่เพิ่มพื้นที่ผิวให้น้ำสัมผัสอากาศได้นานขึ้นและกระจายน้ำให้สม่ำเสมอ โดยหลัก ๆ แบ่งเป็น 2 แนวทางการออกแบบ:

• Film Fill (ฟิล์มฟิลล์): สร้างแผ่นน้ำบาง ๆ ให้ไหลเคลือบผิวแผง พื้นที่ผิวสัมผัสสูง เหมาะกับน้ำที่มีของแข็งละลายน้อย/ควบคุมคุณภาพน้ำได้ดี ให้ประสิทธิภาพการถ่ายเทสูง (Approach ต่ำ) แต่ไวต่อการอุดตันจากตะกรันหรือของแข็งแขวนลอย
• Splash Fill (สแปลชฟิลล์/แบบสาดกระเซ็น): ทำให้น้ำแตกตัวเป็นหยดและสาดกระเซ็นหลายชั้น ทนคราบและสิ่งสกปรกได้ดีกว่า เหมาะกับงานที่น้ำมีของแข็งสูง/คุณภาพไม่คงที่ แต่ประสิทธิภาพอาจต่ำกว่า Film เล็กน้อยเมื่อเทียบในเงื่อนไขน้ำที่สะอาด

เคล็ดลับ: ถ้าน้ำ สะอาดควบคุมได้ เลือก Film เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ถ้าน้ำ สกปรก/ผันผวน เลือก Splash เพื่อความทนทานและลดการตัน

วัสดุและสเปกที่ควรรู้

• PVC (Polyvinyl Chloride): ใช้แพร่หลาย ราคาคุ้มค่า ทนอุณหภูมิได้ระดับหนึ่ง เหมาะกับงานทั่วไป
• PP (Polypropylene): แข็งแรง ทนความร้อน/สารเคมีได้ดีกว่า เหมาะกับอุณหภูมิสูงหรืองานที่มีสารเคมีปน
• FR Grade (Flame Retardant): เพิ่มความหน่วงไฟ ใช้ในไซต์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

ปัจจัยสเปกอื่น ๆ ที่มีผลต่อสมรรถนะ ได้แก่ โครงสร้างช่อง (ช่องคลื่น/ช่องตัดสลับ), ความหนาวัสดุ, ระยะช่อง (Louver/Flute Size), รูปแบบจัดเรียงชั้น และวิธีติดตั้งยึดกับโครงหอ

เกณฑ์การเลือกให้ตรงงาน

การเลือก แผงระบายความร้อน สำหรับหอหล่อเย็น ให้เหมาะสม ควรพิจารณาร่วมกันหลายด้าน ไม่ใช่ดูแค่ราคา:

1. คุณภาพน้ำ: TSS/SiO/ความกระด้าง/ชีวภาพ ถ้าควบคุมยาก เอนเอียงไปทาง Splash Fill
2. อุณหภูมิและโหลดความร้อน: น้ำร้อนขาเข้า, ค่า Range และ Approach ที่ต้องการ รวมถึงสภาพอากาศหน้างาน
3. ข้อจำกัดโครงสร้าง: พื้นที่ภายในหอ, น้ำหนักที่รับได้, การเข้าถึงเพื่อซ่อมบำรุง
4. ต้นทุนรวมตลอดอายุการใช้งาน (LifeCycle Cost): ค่าพลังงานพัดลม, ค่าน้ำทิ้ง/น้ำดิบ, เคมีบำบัด, ค่าแรงล้างฟิลล์, ความถี่การเปลี่ยน
5. ความเข้ากันได้กับชิ้นส่วนอื่น: ตัวกระจายน้ำ (Water Distributor), ตะแกรงกันน้ำกระเด็น (Drift Eliminator), และระบบบำบัดน้ำ

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

• แม้เลือกได้ถูกต้องแล้ว การดูแลก็สำคัญไม่แพ้กัน:
• ตรวจการกระจายน้ำทุกไตรมาส: น้ำต้องลงฟิลล์เต็มพื้นที่ ไม่มีโซนแห้ง
• ล้างคราบ/ตะกรันตามสภาพน้ำ: ใช้แรงดันน้ำที่เหมาะสมหรือสารทำความสะอาดที่ไม่กัดกร่อนวัสดุ
• ควบคุมเคมีบำบัด/ชีวภาพ: รักษา pH, ควบคุมตะไคร่/แบคทีเรีย ลดโอกาสเกิด Biofilm
• บันทึกค่าดำเนินงาน: ΔT, Approach, กระแสไฟพัดลม เพื่อจับสัญญาณเสื่อมก่อนเสียหายใหญ่

สัญญาณว่าใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

• ฟิลล์เปราะ แตก หัก หรือบิดงอจากความร้อน
• การลดอุณหภูมิ (Approach) แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่โหลดเท่าเดิม
• พบการอุดตัน น้ำล้น/ไหลผิดทาง หรือมีกลิ่น/สีน้ำผิดปกติแม้ล้างแล้ว
• กระแสไฟ/โหลดพัดลมสูงขึ้น เพราะต้องชดเชยสมรรถนะที่ตก

ตัวอย่างกรณีใช้งานให้คิดภาพตาม

โรงงานที่ใช้น้ำกระด้างและมีของแข็งแขวนลอย เลือก Splash Fill เกรด PP กันความร้อนสูง ร่วมกับปรับหัวกระจายน้ำให้สเปรย์ละเอียดขึ้น ผลคือการตันลดลง เวลาหยุดล้างน้อยลง และ Approach กลับมาอยู่ในเป้าหมายเดิมโดยไม่ต้องเพิ่มรอบพัดลม

สรุป

การเลือกและดูแล แผงระบายความร้อน สำหรับหอหล่อเย็น ไม่ใช่แค่การ ซื้อแผงให้พอดีขนาด แต่คือการออกแบบสมรรถนะร่วมกับคุณภาพน้ำ เงื่อนไขหน้างาน และต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน หากต้องการคำแนะนำเชิงเทคนิคสำหรับไซต์ของคุณ ทีมงาน Innovek ยินดีช่วยประเมินสเปกที่เหมาะสม จัดหา ติดตั้ง และวางแผนบำรุงรักษาเพื่อให้ระบบทำงานคุ้มค่าและยาวนาน